Wat ChaiYo

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์

ภูสอยดาว เป็นที่หลายตาของนักท่องเที่ยวที่เป็นสายลุย สายเดินป่า ที่ฝันเอาไว้ว่าอยากจะไปให้ได้สักครั้งหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจ มาที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับป่าที่เป็นป่า และเป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง คนที่ได้มาเที่ยวที่นี่ ก็ต่างยกย่องในเรื่องความสวยความงาม และรู้สึกเต็มอิ่มกับการท่องเที่ยว ดังนั้นคนที่เป็นสายลุย อยากจะลองเที่ยวป่าดูสักครั้ง ลองมาที่ ภูสอยดาว คุณจะต้องหลงรัก และอยากจะกลับมาเที่ยวอีกสักครั้งแน่ แต่ก่อนที่จะเดินทางจริง เรามาดูรายละเอียดของ ภูสอยดาว กันก่อนดีกว่า
จุดท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลต์ของภูสอยดาว

สิ่งที่เป็นจุดเด่นของภูสอยดาว เมื่อท่านมาเที่ยวที่นี่ ก็คือเส้นทางระหว่างเดินทางนั่นเอง ตั้งแต่จุดเริ่มต้น ไปจนถึงจุดสิ้นสุดที่ "ลานภูสอยดาว" มีระยะทางเดินทางทั้งหมด 7 กิโลเมตร เรียกว่าระยะทางก็เอาเรื่องเหมือนกัน คนที่จะเดินทางพิชิตภูสอยดาวได้นั้น ต้องมีการเตรียมร่างกายมาเป็นอย่างดี เพื่อให้การเดินทางไม่เป็นอุปสรรค

สำหรับเส้นทางในการเดินทางขึ้นภูสอยดาวนั้น ก็เป็นสภาพธรรมชาติทั่วๆ ไป ไม่ได้มีอันตรายเท่าไหร่ และมีการทำจุดรองรับนักท่องเที่ยวเอาไว้ให้อยู่แล้ว ให้พักระหว่างทาง สิ่งที่เราไม่ควรพลาดระหว่างการเดินทาง ก็คือการชมความงามของป่าสองข้างทาง ซึ่งเป็นธรรมชาติที่สวยงาม มีความเงียบสงบ เรียกว่าเป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง

สำหรับจุดสังเกตในการเดินทาง จะมีด้วยกัน 5 จุดหรือ 5 เนิน ได้แก่ เนินส่งญาติ,เนินปราบเซียน,เนินป่าก่อ,เนินเสือโคร่ง,เนินมรณะ เมื่อผ่านทั้ง 5 เนินนี่ได้แล้ว ก็จะถึงลานภูสอยดาว จะมีป้ายบอกว่าคุณคือผู้พิชิตภูสอยดาว และไม่ควรพลาดในการถ่ายรูปเป็นที่ระลึก เพื่อให้รู้ว่าเราได้ขึ้นมาถึงเป้าหมายแล้ว หลังจากนั้นก็เตรียมจับจองสถานที่ในการกางเต้นท์ได้เลย

ค่าบริการในการเข้าชม
• คนไทย : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
• คนต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท

แนะนำที่เที่ยวเพิ่มเติม
เมื่อท่านมาถึงลานภูสอยดาว มีสถานที่ที่สวยงามที่ต้องไปชมให้ได้ก็คือ น้ำตกสายทิพย์  แม้ว่าจะเป็นน้ำตกขนาดเล็ก แต่ก็สวยงามไม่น้อยเลย และอีกหนึ่งที่ก็คือหลักเขต ไทย-ลาว ที่ต้องเก็บภาพสักภาพไว้ก่อน นอกนั้นก็เป็นการเดินชมวิวธรรมชาติบนภูนั่นเอง

การเตรียมความพร้อมก่อนเดินทาง
สิ่งที่นักท่องเที่ยวต้องเตรียมให้พร้อมก่อนเดินทาง ได้แก่ อุปกรณ์การเดินป่า ไม่ว่าจะเป็นรองเท้า ชุดในการเดินทางที่เหมาะกับการเดินป่า ยากันยุงกันแมลง อาหาร ไฟฉาย เต้นท์ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือทุกคนต้องเตรียมร่างกายให้พร้อมเต็มร้อย

สถานที่ตั้งของ ภูสอยดาว
อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ตำบลห้วยมุ่น อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์

1 ในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวหลายคนชื่นชอบอย่างทะเล ที่มีกิจกรรมให้ทำหลายอย่างในที่ที่เดียว แล้วสิ่งที่จะทำให้ทะเลแต่ละแห่งสวยงามมากขึ้นไปอีกก็คือชายหาด ที่จะช่วยส่งเสริมกันและกันให้กลายเป็นความสวยงามจนทำให้ใครหลายคนตกหลุมรัก และล่าสุดทางเว็บไซต์ชื่อดังของอังกฤษ World Beach Guide ได้เปิดเผย 100 อันดับชายหาดที่สวยที่สุดในโลกประจำปี 2023 ออกมา ซึ่งเป็นชายหาดที่ห้ามพลาดเด็ดขาด และอันดับที่ 1 ของโลกก็ไม่ใช่ที่ไหนไกล คือประเทศไทยของเรานั่นเอง โดยชายหาดแห่งนี้ชื่อ เกาะกระดาน ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดตรัง

เกาะกระดาน จังหวัดตรัง
เกาะกระดานคือชายหาดที่สวยงามที่สุดในโลกของปี 2023 ซึ่งไม่แปลกเลยหากว่าที่นี่จะคว้าอันดับ 1 ไปครอง เพราะที่นี่เต็มไปด้วยความสวยงามที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมาอย่างแท้จริง มีชายหาดขาวสะอาดตา ทรายที่ชายหาดขาวเนียนนุ่ม สอดคล้องกับน้ำทะเลที่ใสสวยงาม พร้อมด้วยแนวปะการังที่ทอดตัวเป็นแนวยาว รวมทั้งบรรดาปลาน้อยใหญ่หลากหลายชนิด เมื่อสิ่งเหล่านี้มารวมกัน จึงทำให้ เกาะกระดาน คว้ารางวัลชายหาดที่สวยที่สุดในโลกของปีล่าสุดไปอย่างไม่มีข้อสงสัย

นอกจากเกาะกระดานแล้ว ยังมีชายหาดของประเทศอีก 4 แห่ง ที่เข้าไปติด TOP 50 ของโลกอีกด้วย โดย หาดไร่เลย์ ของจังหวัดกระบี่ คว้าอันดับ 9, หาดฟรีด้อม ที่จังหวัดภูเก็ต คว้าอันดับ 18, แหลมหาด เกาะยาวใหญ่ จังหวัดพังงา ติดอันดับ 21 และ  อ่าวโตนด เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี คว้าอันดับที่ 44 มาครอง นับได้ว่าชายหาดของไทยเราสวยงามโด่งดังไม่แพ้ที่ไหนในโลกเลยจริงๆ

TOP 20 ชายหาดที่สวยที่สุดในโลกของปี 2023 มีดังนี้

1.Koh Kradan, Thailand
2.Matira Beach, French Polynesia
3.Whitehaven Beach, Australia
4.El Nido, Philippines
5.The Baths, British Virgin Islands
6.Anakena, Chile
7.Anse Source d'Argen,t Seychelles
8.Camps Bay, South Africa
9.Railay Beach, Thailand
10.Kelingking Beach, Indonesia
11.Luskentyre, UK
12.Hyams Beach, Australia
13.Egremni Beach, Greece
14.Cala Goloritze, Italy
15.Reynisfjara beach, Iceland
16.Anse Lazio, Seychelles
17.Radhanagar Beach, India
18.Freedom Beach, Thailand
19.White Beach, Philippines
20.Ile aux Cerfs, Mauritius

ชายหาดคือสถานที่เที่ยวพักผ่อนที่สวยงาม แล้วยังสามารถไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แล้วยังสามารถไปเที่ยวได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะกับชายหากในประเทศไทยที่สวยงามไม่แพ้ที่ไหนในโลก หากมีโอกาสอยากจะให้ลองไปเที่ยวยัง เกาะกระดาน ที่จังหวัดตรังกันดูสักครั้ง ไปสัมผัสด้วยตาตัวเอง ว่าทำไมที่นี่ถึงได้ถูกยอมรับจากทั่วโลก ให้กลายเป็นชายหาดที่งดงามที่สุดในปี 2023 ไปครอง ที่รับรองว่ามันสวยราวกับอยู่ในภาพวาดเลยจริงๆ

หน้าหนาวเป็นฤดูกาลที่ใครหลายคนชอบที่จะออกไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะการสัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติที่แสนสดชื่น เต็มไปด้วยสีเขียวขจี ได้ออกไปสูดอากาศแสนบริสุทธิ์ที่มาพร้อมกับสายหมอก เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่มีฤดูกาลไหนเหมือนในการเที่ยวหน้าหนาวนี้ โดยวันนี้จะมีแนะนำ 5 สถานที่ที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง ที่รับรองว่าสุดฟินกันไปถึงหัวใจอย่างแน่นอน จะมีที่ไหนกันบ้าง ไปดูกันได้เลย

5 ที่เที่ยวหน้าหนาว สุดฟินหัวใจ 2023

1.ทุ่งดอกกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ
สถานที่สุดชื่อดังที่มีให้ท่องเที่ยวเฉพาะหน้าฝนเท่านั้น กับเทศกาลทุ่งดอกกระเจียวบานฉ่ำในจังหวัดชัยภูมิ ที่นอกจากจะเต็มไปด้วยดอกกระเจียวที่พากันออกดอกต้อนรับทั้งขุนเขาแล้ว ยังมีอากาศที่ดีมากๆ รวมทั้งมีสายหมอกและจุดชมวิวที่สวยงามอยู่ด้วย ที่นี่ใครเคยมาแล้ว ย่อมต้องประทับใจและอยากจะกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอน

2.แพริมแม่น้ำ จังหวัดกาญจนบุรี
จังหวัดกาญจนบุรี เป็นจังหวัดที่เที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่สำหรับหน้าฝนแล้ว ที่นี่จะสวยงามเป็นพิเศษ อย่างยิ่งกับการไปพักผ่อนตามแพริมน้ำ ที่จะสดชื่นสวยงามกับธรรมชาติที่จัดเต็ม สถานที่เงียบสงบเหมาะกับการพักผ่อนจากความเหนื่อยล้าได้เป็นอย่างดี และกิจกรรมยอดฮิตอย่างการล่องแพไปตามแม่น้ำเพื่อชมธรรมชาติ 2 ข้างทาง ต้องบอกว่าคุ้มค่ากับการมาเยือนเอามากๆ

3.เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา
ชื่อของเขาใหญ่ หลายคนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว เพราะที่นี่เป็นสถานที่เที่ยวยอดฮิตที่มาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ยิ่งหากเป็นหน้าฝนจะยิ่งน่าสนใจว่าฤดูกาลไหนๆ เพราะความสวยงามของธรรมชาติที่นี่จะสมบูรณ์มากที่สุดนั่นเอง ทุกพื้นที่จะเต็มไปด้วยสีเขียวขจีทั้งขุนเขา มีสถานที่ให้เรื่องพักผ่อนกันเยอะจนนับไม่ถ้วน ทั้งยังเดินทางมาง่ายสุดสะดวก ที่นี่ไม่มีคำว่ามารอบเดียวจบแน่นอน

4.หมู่บ้านสะปัน จังหวัดน่าน
หมู่บ้านเล็กๆที่มีภูเขาล้อมรอบอย่างหมู่บ้านสะปัน จังหวัดน่าน ที่นี่คือสถานที่เที่ยวในหน้าฝนที่แนะนำว่าไม่ควรพลาดอย่างมาก ถึงจะเป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆในหุบเขา แต่ความสดชื่นดีต่อใจย่อมไม่ธรรมดา ภาพวิวที่จะได้เห็นมันสวยอลังการอย่างที่สุด มีนาขั้นบันได ป่าเขาที่เขียวขจี มาพร้อมกับไอหมอกจางๆ ที่หากนั่งจิบกาแฟแก้วโปรดไปด้วยล่ะก็ มันคือความสุขที่อยากจะให้หยุดเวลาไว้จริงๆ

5.เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
ที่สุดท้ายที่อยากจะแนะนำก็คือ เขาค้อ สถานที่เที่ยวยอดฮิตที่หน้าฝนก็ฟินไม่แพ้หน้าหนาวเช่นกัน เพราะทั้งขุนเขาจะเต็มไปด้วยความเขียวที่ทำให้หัวใจสดชื่นขึ้นมาทันที มาพร้อมกับอากาศดีที่เย็นฉ่ำหน้าเย็นตลอดเวลา สถานที่เที่ยวมีมากมายพร้อมต้อนรับ ทั้งการเดินชมธรรมชาติ กิจกรรมผจญภัย ที่พักที่สวยงาม แล้วที่พลาดไม่ได้เด็ดขาดคือ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว วัดกลางหุบเขา ที่สวยงามราวกับออกมาจากอจินตนาการเลยทีเดียว